ถ้าคุณดื่มน้ำต่อวัน 6-8 แก้วอยู่แล้ว คุณก็ย่อมคิดดูว่า การถูกว่าร้ายว่าเป็นโรคขาดน้ำนั้น ช่างน่าชวนหัวสิ้นดี แต่กระนั้นความจริงแล้ว ไม่มีใครบัญญัติได้จริงๆดอกว่าแต่ละบุคคลต้องดื่มน้ำวันละเท่าใดจึงจะเรียกว่าเพียงพอ นั่นก็เนื่องด้วยความอยากของร่างกายแต่ละคนแตกต่าง และไม่สมดุลกัน
อย่างไรก็ตามลองมองในมุมกลับ คุณมีอาการใด ที่บ่งบอกแสดงถึงการขาดน้ำบ้างไหม? เช่น คอเลสเตอรอลสูงหรือไม่? ความดันโลหิตเถินไหม? เป็นโรคหัวใจหรือเปล่า? เป็นเบาหวานหรือไม่? เป็นโรคไตหรือไม่? หอบหืดหรือเปล่า? ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือไม่? เราหวังว่าคุณจะสามารถตอบปฏิเสธได้ต่อทุกข้อ แต่ถ้าว่าถ้าหากคุณมีอาการแม้แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็มีหนทางเหลือเกินว่ามีมูลเหตุมาจากการขาดน้ำ ไม่ก็ ขาดน้ำที่ดีพอ
ภาระหลักของน้ำ คือให้ความฉ่ำแก่เซลล์ บำรุงรักษาเซลล์ให้กระปรี้กระเปร่า เพื่อดำเนินการการลำเลียงอาหารไปทั่วตัว กับรองรับกากมาระบายจากร่างกาย ได้อย่างแข็งขัน มีศักยภาพ น้ำดื่มที่ผ่านกรรมวิธีทำเป็นน้ำดื่มแอคทิเวท * มาแล้ว จะได้รับการปลุกเร้าพลังน้ำ เพราะจัดโมเลกุลให้เรียงกันเป็นระเบียบ ซึ่งสนับสนุนให้ซึมเข้าไปภายในเซลล์ได้ทันใจกว่าน้ำดื่มทั่วๆไปถึงสามเท่า ฉะนั้น เมื่อดื่มน้ำเยอะแยะเท่าที่ท่านจะดื่มได้ พร้อมด้วยเป็นน้ำดื่มแอคทิเวท ลู่ทางที่น้ำจะปฏิบัติหน้าที่ทะนุบำรุงเซลล์ให้คงทน ก็จะมีมากขึ้นอย่างเห็นข้อสรุปชัด ๆ ร่างกายที่สดชื่น ย่อมมีแรงปะทะขัดขวางความเจ็บไข้ได้ดีกว่า
ดังนั้น หากมีคนบอกคุณว่า เมื่อเขาดื่มน้ำดื่มแอคทิเวทตามปรกติ แล้วที่เขาเคยเป็นโรคอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือว่าหลายๆ อย่างที่อ้างอิงถึงก่อนหน้านี้ ได้บรรเทาเบาบางหรือไม่ก็แทบจะทุเลาไปเลยละก็ อย่าเพิ่งไม่เชื่อ เพราะด้วยโรคที่เกิดจากการขาดน้ำที่ดีเพียงพอนั้นมีจริง และการดูแลด้วยน้ำที่ดีพอ ก็ทำได้จริงๆ
"ยังไงๆ ต้องดื่มน้ำอยู่แล้ว เลือกสรรน้ำที่สนับสนุนสุขภาพของคุณไม่ดีกว่าหรือ ?"
(* กระบวนการการแอคทิเวท [Molecular Resonance Effect Technology] หมายความว่าการเร้าประสิทธิภาพน้ำ เกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ ผ่านโพลีเมอร์ ซึ่งส่งผลลัพธ์เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงร่างของโมเลกุลน้ำ ให้ละม้ายคล้ายคลึงกับน้ำจากน้ำพุธรรมดาแถวยอดเขาคอเคซัส ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ชี้แจงว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื้อร้าย ในคนที่แตะต้องกัมมันตภาพรังสี จากการปะทุของโรงไฟฟ้ากำลังแรงงานนิวเคลียร์ ที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย เมื่อ คริสต์ศักราช 1986 และการดื่มบ่อยๆโดยคนทั่วไป สามารถสั่งสมเป็นสุขภาพที่กระปรี้กระเปร่าขึ้น มีระบบระแวดระวังที่ขัดขวางโรคภัยไข้เจ็บได้น่าพอใจชึ้น)
ที่มา : https://xn--22cea3dvaalf6j5be3d3a3c3hl8k0c.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น